สรุปข่าวไอทีประจำวัน (13 มกราคม 2555)


สรุปข่าวไอทีที่น่าสนใจประจำวันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 ครับ

 

กสท โหมแบรนด์ “my” สู้ศึก 3G เดือด !!!

กสท เปิดแบรนด์ ‘my’ ลุยตลาดมือถือ 3G ฝันหวานลูกค้า 6 แสนรายในปีนี้ พร้อมเป้าหมายขยายโครงข่ายเป็น 1.4หมื่นสถานีฐาน หากรมว.ไอซีทีอนุมัติ และสภาพัฒน์ฯเห็นชอบ

นายวิโรจน์ โตเจริญวาณิช รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า กสท ได้เปิดตัวโครงข่ายให้บริการโทรศัพท์มือถือระบบ 3G ภายใต้แบรนด์มาย (my) อย่างเป็นทางการ หลังจากก่อนหน้านี้ กสท ได้เริ่มทดลองทำตลาดก่อนให้บริการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีลูกค้าในระบบประมาณ 4,000 ราย ทั้งนี้ กสท ตั้งเป้าจะมีลูกค้าเพิ่มเป็น 6 แสนราย โดยมี 2 ปัจจัยสำคัญคือจำนวนซิมการ์ดและเครื่องโทรศัพท์มือถือที่ต้องเพียงพอต่อความต้องการ

‘เราเชื่อว่าถ้าหาก 2 ปัจจัยดังกล่าวสามารถทำได้ ลูกค้าที่ตั้งเป้าไว้ 6 แสนรายคงไม่ไกลเกินจริงอย่างแน่นอน’

ทั้งนี้ กสท จะใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ในการทำตลาด 3G myในปีนี้ ซึ่งจะเน้นกลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นหลัก รวมถึง กสท ยังได้ขยาย และพัฒนาจุดให้บริการ ( touch point) ในรูปแบบของแคท ชอป ( CAT Shop) และมาย ชอป ( my shop) อีก 100-150 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมให้บริการในลักษณะให้เอกชนเช่าใช้โครงข่ายเพื่อทำตลาด (MVNO) ซึ่งขณะนี้มีบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ให้ความสนใจ

3G my มีให้เลือกใช้ 3 แพกเกจ คือ

1.my Smart สำหรับลูกค้าที่ต้องการโทร.และเล่นอินเทอร์เน็ต ผ่านสมาร์ทโฟน 3G สามารถเล่นเน็ตไม่จำกัด พร้อมค่าโทร.เพียง 790 บาท/เดือน

2.my Click สำหรับลูกค้ากลุ่มที่เน้นใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก อัปเดทได้ทุกเวลาผ่านไอแพด แท็บเล็ต และแอร์การ์ดเริ่มต้นที่ 99 บาท/เดือน และ

3.my Talk สำหรับลูกค้าที่เน้นโทร.ทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัว ให้อิสระโทร.ฟรีทุกเครือข่ายสูงสุดนาน 800 นาที/เดือน โดยในช่วงแรกจะเป็นการเปิดให้บริการในรูปแบบเหมาจ่ายรายเดือน เพียงอย่างเดียว ส่วนแบบเติมเงินคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ในเดือนก.พ.นี้ กสท จะส่งจดหมายเชิญชวนลูกค้าฮัทช์เดิมที่อยู่ในระบบซีดีเอ็มเอ (CDMA) ซึ่งมีจำนวนกว่า 4 แสนรายให้มาใช้บริการ 3G my

กสท มีแผนขยายโครงข่าย my โดยในเดือน ก.พ.55 จะขยายเครือข่ายเพิ่มเป็น 5,000 สถานีฐาน ในเดือนมิ.ย.เพิ่มเป็น 8,000 สถานีฐาน และในเดือน ธ.ค.เพิ่มเป็น 14,000 สถานีฐาน เพื่อให้โครงข่าย 3G my ครอบคลุม 90% ของจำนวนประชากร

นายวิโรจน์ กล่าวว่าขณะนี้เอยู่ระหว่างทบทวนงบลงทุนในการติดตั้งขยายโครงข่าย3G HSPA แบรนด์ my มูลค่า12,000 ล้านบาท ซึ่งยอมรับว่าแผนการลงทุนขยายโครงข่ายต้องล่าช้าออกไป เพราะมีการเปลี่ยนรัฐบาล และเปลี่ยนกรรมการบอร์ด กสท แต่หากบอร์ดได้ข้อสรุปในเรื่องการขยายโครงข่าย 3G แล้วจะรีบเสนอต่อน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที จากนั้นจะได้ส่งต่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) ต่อไป

 

 

iPhone 5 ปลดล็อคด้วย “ใบหน้า” เจ้าของ?

หลายคนตื่นเต้นกับคุณสมบัติของ Android 4.0 ที่มาพร้อมกับ FaceUnlock คุณสมบัติการ “ปลดล็อค” (Unlock) เครื่องด้วยการใช้กล้องหน้าของ Smart Phone เพื่อสแกนใบหน้าเจ้าของ ล่าสุดมีรายงานว่า Apple ได้จดสิทธิบัตรว่าด้วยการที่จะทำให้อุปกรณ์ iOS สามารถรู้ตัวเองได้ว่ามันกำลังอยู่กับเจ้าของ และใช้ใบหน้าของเจ้าของกับระบบรักษาความปลอดภัยด้วย

สำหรับวิธีที่ได้มีการอธิบายในสิทธิบัตรจะมีการแสดงขั้นตอนการตรวจจับใบหน้าของคน เพื่อตรวจสอบว่ามีคุณสมบัติตรงกับใบหน้าของเจ้าของเครื่อง หรือไม่? โดยระบบการทำงานสามารถตรวจสอบเจ้าของตัวจริงได้ ไม่ว่าหน้าตาของคุณจะอยู่ในอารมณ์ไหนก็ตาม ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบว่า ตรงกับเจ้าของ เครื่องก็จะ Unlock ให้ใช้งานได้ ผลลัพธ์ของฟังก์ชันการทำงานจะเหมือนกับ FaceUnlock ของ Android 4.0 แต่ดูเหมือนจะเพิ่มความฉลาดที่การวิเคราะห์ใบหน้าเจ้าของได้แม้จะอยู่ไหนอารมณ์ไหนก็ตาม (บางทีคุณผู้อ่านอาจจะกำลังโมโหแฟนสุดขีด ไม่สามารถทำหน้านิ่งๆ ให้อุปกรณ์ iOS ปลดล็อคได้ก็ไม่เป็นไร จะหน้าบึ้งบูด หรือยิ้ม ก็สามารถระบุตัวเจ้าของได้ก็แล้วกัน

นอกจากนี้ในสิทธิบัตรฉบับเดียวกัน ยังแสดงถึงฟังก์ชันการรู้จำตัวบุคคล เพื่อโต้ตอบในลักษณะบางอย่าง เช่น จากในรูปข้างล่างนี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้สามารถปรับแต่งอินเตอร์เฟซ ข้อความทักทาย หรืออื่นๆ เฉพาะบุคคลที่อุปกรณ์ iOS ตรวจจับแล้วรู้จำได้ว่า เป็นใคร? สมมติแฟนคุณหยิบ iPhone ของคุณขึ้นมา หากมันรู้จำใบหน้าแฟนคุณได้ (หวังว่าหน้าตาจะไม่คล้ายกับกิ๊กเข้าล่ะ) iPhone ก็อาจจะแสดงข้อความหวานๆ ทีคุณกำหนดไว้ได้ เป็นต้น ฟังก์ชันนี้จะสนับสนุนการที่อุปกรณ์ iOS นั้นได้รับอนุญาตให้ใช้งานได้หลายยูสเซอร์ (คล้ายๆ กับการตั้งเสียงเรียกเข้าให้ยูสเซอร์แต่ละคน)

งานนี้จะเป็นแค่ vaporware เพื่อแสดงให้เห็นว่า iOS ไม่ได้แพ้ Android หรือเปล่า? คำตอบน่าจะอยู่ที่ iPhone 5 ส่วนข้างล่างนี้เป็นคลิปที่นักพัฒนาแอพฯ บน iPhone ได้ทำขึ้นเลียนแบบ FaceUnlock ของ Android 4.0 ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า มันยังตรวจจับได้ช้าเกินไป โดยแอพฯ ตัวนี้จะไม่ได้ออกมาเพื่อปลดล็อค แต่ใช้สำหรับการอนุญาตให้รัน App ต่างๆ บนเครื่อง คาดว่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดบน iTunes App Store เร็วๆ นี้

 

Intel ลั่น! บุกตลาด “Smart Phone” !!!

 

ในงาน CES 2012 ระหว่างที่ พอล โอเตลินี่ (Paul Otellini) ประธานเจ้าหน้าที่คณะบริหาร (CEO) ของอินเทล (Intel) ขึ้นเวที เพื่อนำเสนอทิศทางด้านการตลาด และเทคโนโลยีของบริษัท Otelini ได้กล่าวว่า “เรากำลังเดินหน้าต่อไปจากยุคของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (personal computer) ไปสู่ยุคการประมวลผลส่วนบุคคล (personal computing)

“อุปกรณ์หลายๆ อย่างที่ผู้บริโภคใช้งานกันทุกวันนี้มีความเกี่ยวเนื่องในการทำงานน้อยมาก ประเด็นสำคัญคือ เรากำลังสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับผู้ใช้ ซึ่งถือเป็นความท้าทาย และการทดสอบครั้งสำคัญของเราในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรม และที่งาน CES นี้” Otelini ได้อธิบายถึง 4 แนวทางที่จำเป็นสำหรับคุณภาพของความต้องการในการประมวลผล โดยประการแรก อุปกรณ์เหล่านี้จะต้องมีคุณสมบัติการทำงานที่ดึงดูดให้อยากใช้ และต้องคิดได้เร็วเท่าที่เราคิด ประเด็นต่อมาก็คือ ประสบการณ์ที่ได้รับจากการใช้งานต้องสอดคล้องกัน โดยไม่ขึ้นอยู่กับขนาด และตำแหน่งที่ใช้อุปกรณ์ แนวทางที่สาม อุปกรณ์เหล่านี้จะต้องให้ความสำคัญกับความพอใจของผู้ใช้แต่ละรายได้ ส่วนแนวทางสุดท้าย ประสบการณ์ในการประมวลผลต้องมีความปลอดภัย โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัว

หลังจากเกริ่นเรื่องแนวทางเสร็จ Otellini ก็เข้าเรื่องทิศทางของผลิตภัณฑ์ต่อทันที โดยเน้นย้ำชัดเจนว่า สมาร์ทโฟน (smartphone) คือ เป้าหมายที่ทางบริษัทจะเจาะเข้าไป ซึ่ง Otellini ได้พูดถึง Smart Phone รุ่นใหม่รุ่นแรกของบริษัทที่กำลังจะเปิดตัวในจีน นั่นก็คือ Lenovo K800 โดยมี Liu Jun รองประธานอาวุโสของ Lenovo ขึ้นมาบนเวทีพร้อมโชว์ Smart Phone รุ่นดังกล่าว ซึ่ง K800 จะมาพร้อมกับหน้าจอไฮเดฟฯ ขนาด 4.5 นิ้ว และทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android โดยคาดว่าจะวางตลาดในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ “นี่เป็นแค่ก้าวแรก ผมเชื่อมั่นว่า Intel และ Lenovo จะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในตลาดโมบายอย่างแน่นอน” Jun กล่าว

จากนั้น Otellini ได้แสดงข้อมูลอ้างอิงสำหรับการออกแบบ ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้บริษัทฮาร์ดแวร์ต่างๆ สามารถนำไปใช้ในการพัฒนา Smart Phone ของตนเองได้อย่างรวดเร็ว โดยสเป็กเครื่องในเบื้องต้น  Smart Phone ที่สร้างจากแบบนี้จะทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android และมาพร้อมกล้อง 8 ล้านพิกเซล สามารถบันทึก และเล่นวิดีโอไฮเดฟฯ 1080p ใช้สนทนาได้นาน 8 ชั่วโมง ในขณะที่สแตนด์บายได้ 14 วัน

นอกจากนี้ ดีไซน์อ้างอิงของ Intel ยังหมายถึง Smart Phone ที่มีความบางได้น้อยกว่า 10 มม. (ไม่ถึง 1 ซม.) และมีพอร์ต HDMI ตลอดจนความสามารถในการชำระค่าใช้จ่ายด้วยเทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) Otellini ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วยว่า แพลตฟอร์มอ้างอิงของ Smart Phone ที่ใช้โพรเซสเซอร์ Intel จะตอบโจทย์เรื่องความเร็วในการท่องเว็บ และสมรรถนะในการประมวลผล JavaScript ที่เร็วมาก รวมถึงการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ด้วย

ความลับการทำงานของ Smart Phone Lenovo K800 ก็คือ ซิงเกิ้ลคอร์-โพรเซสเซอร์ Atom Medfield Z2460 ความเร็ว 1.6GHz โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตชิป 32nm แต่ยังไม่จบแค่นี้ เพราะในโอกาสเดียวกัน ทาง Intel ยังได้เปิดตัว “Tablet” รุ่นใหม่สำหรับ Windows 8 ที่มาพร้อมกับขุมพลังของ Clover Trail Atom Processor ที่มีกำหนดการเปิดตัวช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยจุดเด่นของ Clover Trail ก็คือ มันมีการเพิ่มคอร์ของการประมวลผลเข้าไป และปรับปรุงกลไกการประมวลผลทางด้านกราฟิกให้ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่า มันทำให้ “Tablet” ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ตอบโจทย์ทั้ง Android และ Windows 8

อย่างไรก็ดี ในงาน CES 2012 นอกจาก Lenovo จะได้มีโอกาสแนะนำ Smart Phone Android ที่ใช้โพรเซสเซอร์ Intel แล้ว ทางบริษัทยังได้แนะนำ Hybrid notebook (Tablet) ทีทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8 อีกด้วย โดยสเป็กในเบื้องต้น Lenovo Yoga มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 13.นิ้ว ความละเอียด 1600×900 พิกเซล (รองรับการสัมผัสได้ 10 นิ้วพร้อมกัน) หน้าจอสามารถพับได้ 360 องศา เพื่อเปลี่ยนเป็น Tablet โดยมีความหนาเพียง 0.67 นิ้ว และหนัก 3.1 ปอนด์ (ประมาณ 1.4 ก.ก.) ทำงานต่อเนื่องได้นาน 8 ชั่วโมง วางตลาดช่วงครึ่งหลังของปี 2012 สนนราคาเริ่มต้นโดยประมาณอยู่ที่ 1,199 เหรียญฯ หรือประมาณ 36,000 บาท