ความแตกต่างระหว่างหมึกของแท้กับหมึกเทียบเท่า

ในปัจจุบันผมเชื่อว่า คนที่ใช้คอมพิวเตอร์ตามบ้านหรือสำนักงาน มักจะมีเครื่องพิมพ์ (Printer) ไว้สำหรับพิมพ์งานเอกสารหรือรูปภาพต่างๆ ติดไว้อย่างน้อยสักเครื่องหนึ่ง หากลองสังเกตดูจะพบว่า ค่าใช้จ่ายที่เรามักจะพบส่วนใหญ่เมื่อเราใช้เครื่องพิมพ์เหล่านี้ก็คือ “ค่าหมึกพิมพ์” ครับ ซึ่งโดยปกติเครื่องพิมพ์จะทำการติดตั้งหมึกของแท้มาจากโรงงาน แต่ปัญหาสำคัญก็คือ ราคาของหมึกพิมพ์ของแท้มักจะมีราคาสูง หลายคนจึงมองหา “หมึกเทียบเท่า” ซึ่งสามารถใช้แทนกันได้และมีราคาที่ต่ำกว่า แต่หลายคนก็ไม่มั่นใจว่า คุณภาพในการใช้งานนั้นจะสู้ของแท้ได้หรือไม่ วันนี้ผมจึงหาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “ความแตกต่างระหว่าหมึกแท้และหมึกเทียบเท่า” มาให้คุณได้อ่านและพิจารณาในการเลือกใช้งานนะครับ ความแตกต่างระหว่างหมึกของแท้กับหมึกเทียบเท่า แม้ว่าหมึกเทียบเท่าจะมีราคาถูกกว่า และสามารถใช้งานได้เหมือนๆ กับหมึกแท้ แต่มันมีความแตกต่างที่เกิดขึ้นหากเราลองสังเกตให้ดีนะครับ 1. ความคมชัดของงานพิมพ์ ถ้าหากเป็นการพิมพ์งานที่เป็นเอกสารตัวหนังสือก็จะดูไม่ค่อยแตกต่างครับ แต่ถ้าเป็นการพิมพ์รูปภาพแล้ว จะเห็นได้ว่าความคมชัดของภาพที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์ที่ใช้หมึกแบบเทียบเท่าจะสู้ภาพจากเครื่องพิมพ์ที่ใช้หมึกแท้ไม่ได้ครับ 2. ความคงทนเมื่อพิมพ์ลงบนกระดาษ ผมสังเกตว่า คุณภาพของหมึกเทียบเท่าจะน้อยกว่าหมึกแท้อยู่พอสมควร (ก็แหงล่ะ ราคาถูกกว่านิ) หากกระดาษที่พิมพ์ด้วยหมึกเทียบเท่าโดนน้ำหยดใส่ สังเกตว่าสีหมึกพิมพ์จะละลายออกหมดครับ ในขณะที่หมึกแท้จะมีการยึดเกาะผิวกระดาษมากกว่าครับ 3. ผลกระทบด้านหัวหมึกพิมพ์ เครื่องพิมพ์ที่ใช้หมึกพิมพ์แบบเทียบเท่าจะมีโอกาสที่หัวหมึกพิมพ์ตันเร็วกว่า เนื่องจากมิใช่หมึกที่ถูกสร้างมาสำหรับเครื่องพิมพ์นั้นๆ โดยเฉพาะครับ 4. การรับประกัน โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์มักจะมีเงื่อนไขการรับประกันสิ้นสุดลงเมื่อไม่ได้ใช้หมึกของแท้ครับ ทำให้ในกรณีที่เครื่องพิมพ์มีปัญหาที่เกิดจากการใช้หมึกแบบเทียบเท่า ศูนย์ให้บริการส่วนมากจะถือว่าการรับประกันสิ้นสุดลงแล้วครับ โดยข้อสังเกตเหล่านี้ ผมหวังว่าจะทำให้คุณสามารถพิจารณาในการเลือกซื้อหมึกได้นะครับ แต่ถ้าให้ความสำคัญเรื่องราคา หมึกเทียบเท่าก็เป็นทางเลือกที่ช่วยคุณได้ดีครับ

การเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ LCD,LED

สำหรับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ตอนนี้อาจจะกำลังสงสัยหรือสับสนอยู่บ้าง เนื่องจากปัจจุบันนี้มีจอคอมพิวเตอร์ให้เลือกจำนวนมากมายหลายรุ่น หลายยี่ห้อ รวมทั้งขนาดหน้าจอที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ผมอยากจะขอนำเสนอแนวทางการเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์แบบง่ายๆ มาช่วยให้คุณมีข้อมูลในการเลือกซื้อได้มากขึ้นนะครับ 1. ขนาดหน้าจอ ส่วนนี้เป็นส่วนแรกที่คุณจะต้องคำนึงถึงก่อนนะครับว่า คุณต้องการจอคอมพิวเตอร์ขนาดเท่าไหร่? เพราะขนาดหน้าจอที่ใหญ่ก็ยิ่งจะช่วยให้มีพื้นที่ในการใช้งานบนหน้าจอมากขึ้น หรือถ้าคุณต้องการนำไปเพื่อเล่นเกมส์หรือชมภาพยนตร์ผ่านคอมพิวเตอร์ ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ก็จะยิ่งทำให้ได้อรรถรสในการรับชมมากยิ่งขึ้น (แต่ราคาก็จะสูงตามขึ้นไปด้วยนะครับ) ขนาดหน้าจอที่มีอยู่ในปัจจุบันก็คือ 15 นิ้ว, 17 นิ้ว, 18.5 นิ้ว, 19 นิ้ว, 20-27 นิ้วครับ ถ้าผมแนะนำขนาดหน้าจอ 19 นิ้วจะเหมาะที่สุดครับ 2.  ความละเอียดหน้าจอ (Resolution) โดยยิ่งความละเอียดมากภาพยิ่งคมชัด แต่ความละเอียดจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการ์ดจอที่ใช้งานด้วยนะครับ ซึ่งถ้าเป็น Notebook ขนาดหน้าจอปกติ (14 นิ้ว) จะมีความละเอียดอยู่ที่ 1366 x 768 ส่วนหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบ Wide Screen ความละเอียดที่ใช้ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1440 x 900 ครับ ความละเอียดสูงๆ จะเห็นความแตกต่างได้ชัดเมื่อใช้เล่นเกมส์ที่สามารถปรับความละเอียดสูงๆ ได้ดีด้วยครับ 3.  อัตราส่วนของจอ […]