สรุปข่าวไอทีประจำวัน (12 ธันวาคม 2554)

สรุปข่าวไอทีที่น่าสนใจประจำวันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2554 ครับ

 

 

IT – AV โหมจัด Event กระชากกำลังซื้อช่วง Christmas + New Year !!!

ไตรมาส 4 ถือได้ว่าเป็นช่วงปั๊มยอดขายของสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และไอที แต่จากสถานการณ์มหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น เรียกได้ว่า ทุกค่ายต้องหยุดกิจกรรมทางการตลาดและการขายทั้งหมด ส่งผลให้ยอดขายแต่ละค่ายหดหายไปตามๆ กัน ว่ากันว่าเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20% ทีเดียว

“ธันวาคม” เดือนสุดท้ายของปีนี้ และของไตรมาส 4 จึงเป็นความหวังของบรรดาธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าและไอที แม้ว่าจะเหลือเวลาเพียง 1 เดือนก็ตาม ส่งผลให้ปรากฏการณ์ล่าสุด แต่ละค่ายจึงพยายามงัดกิจกรรมทางการตลาดและแคมเปญ ซึ่งอาจจะถือได้ว่าแรงสุดในรอบหลายปี มาแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพราะเชื่อว่าการใช้กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยดึงกำลังซื้อที่อั้นมานาน พร้อมทั้งปั๊มยอดขายที่หายไปกลับมาให้ได้มากที่สุด

เริ่มจากศูนย์รวมและจำหน่ายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ครบวงจร อย่างเพาเวอร์บาย ที่ร่วมกับเซ็นทรัลการ์ด และผู้ให้บริการบัตรเครดิต อัดงบกว่า 30 ล้านบาท จัดแคมเปญ “เครื่องเก่า ทุกสภาพ มีค่า ที่เพาเวอร์บาย” ด้วยการให้ผู้บริโภคนำสินค้าเก่าที่ประสบภัยมาแลกส่วนลด+รับสูงสุด 26% พร้อมอัตราดอกเบี้ย 0% ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระผู้ประสบภัย หรือผู้บริโภค ที่มีความจำเป็นต้องซื้อเครื่องใหม่ทดแทนเครื่องเก่า รวมทั้งซื้อเพื่อมอบเป็นของขวัญในช่วงพิเศษ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 8 ก.พ.55 ที่เพาเวอร์บายทุกสาขา

เพา เวอร์บายยังสร้างความมั่นใจให้กับสินค้าและบริการด้วยมาตรฐานเดียวกันทั่ว ประเทศโดย “ซื้อที่ไหน ไปส่งได้หมด” เพียงมาชอป เพาเวอร์บายจัดส่งให้ถึงที่ และการบริการที่มากกว่ากับ 3 Plus ขยายระยะเวลารับประกันสูงสุด 3 ปี เพียงชำระค่าบริการ 6% ของราคาสินค้า บริการซ่อมด้วยศูนย์บริการมาตรฐาน อะไหล่แท้ และบริการซ่อมถึงบ้าน ในกรณีที่สินค้ามีขนาดใหญ่ หรือถูกติดตั้ง ไม่สะดวกขนย้าย ได้รับเงินคืนสูงสุด 90% ในกรณีที่ไม่สามารถซ่อมได้ หรือค่าซ่อมสูงกว่าราคาสินค้า พิเศษความคุ้มครองเพิ่มเติมฟรี กรณีไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้ ถูกขโมยโดยมีร่องรอยงัดแงะ อุบัติเหตุแตกหัก พิเศษ เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระผู้ประสบภัย ศูนย์ซ่อมเพาเวอร์บายมอบข้อเสนอพิเศษ ลดค่าแรงซ่อม ค่าอะไหล่ สูงสุด 50% อีกด้วย

ขณะที่ยักษ์ค้าปลีกค้าส่งไอทีอย่าง “พันธุ์ทิพย์” ก็เดินเครื่องจัดบิ๊กอีเวนต์ ภายใต้ชื่อ Pantip Hot Sale 2011 ระหว่างวันที่ 16-25 ธันวาคม หลังจากต้องเลื่อนการจัดในเดือนตุลาคมออกไปเนื่องจากน้ำท่วม และครั้งนี้ยังจัดพร้อมกัน 4 สาขา ได้แก่ ประตูน้ำ งามวงศ์วาน บางกะปิ และเชียงใหม่

“เชื่อว่าการจัดงานแสดงสินค้าไอที จะเป็นเครื่องมือช่วยดึงลูกค้าให้กลับมาจับจ่ายใช้สอยได้ระดับหนึ่ง”

ยงยุทธ ไชยชนะ กรรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าไอที บริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ กล่าว และบอกว่า เมื่อผนวกกับงานคอมมาร์ตเลื่อนการจัดออกไป และร้านค้าไอทีมีการอัดกลยุทธ์ให้ส่วนลดสูงสุดถึง 50% ก็ถือเป็นจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม เนื่องจากกำลังซื้อในตลาดมีอยู่แล้ว โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นการซ่อมแซมบ้าน และอีกส่วนเพื่อจับจ่ายอุปกรณ์ไอทีที่ใช้ในการทำงาน โดยเชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้ จะมียอดเงินสะพัดในงานไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท

“การค้าขายวันนี้ไม่ง่าย ต้องลงไปคุยกับผู้เช่า กำไรก็ไม่มาก อีกทั้งสิ่งที่ผู้ค้าต้องการอย่างมากตอนนี้ก็คือ ให้ลูกค้ากลับมาซื้อเหมือนเดิม เราจึงต้องเอากำไรมาจัดกิจกรรมให้ลูกค้ามากขึ้น เพื่อดึงกำลังซื้อกลับมา”

ใน ช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ ถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า พันธุ์ทิพย์จะให้น้ำหนักกับการจัดกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น โดยนอกจากการจัด Pantip Hot sale ปีละ 3 ครั้งแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับกรมทรัพย์สินทางปัญญาและหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเตรียมแผนจัดงานด้านซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้นอีก 1 งาน

 

 

RIM เตรียมให้บริการส่ง “BlackBerry Messenger” บนทีวี !!!

RIM (Research In Motion) เตรียมการใหญ่รับระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด “BlackBerry 10” ประกาศพร้อมพัฒนาระบบรับส่งข้อความ BBM (BlackBerry Messenger) ให้สามารถรองรับรูปแบบอุปกรณ์ที่มีหน้าจอหลากหลาย เท่ากับไม่เพียง Smart Phone และ Tablet แต่ TV และระบบฝังตัวในรถยนต์จะสามารถรองรับระบบ BBMได้ในอนาคต

สำหรับประเทศไทย RIM ระบุว่าแผนใหญ่ปีหน้าคือการหนุนตลาดแอปพลิเคชันที่มีการเชื่อมต่อข้อมูลกับ ระบบรับส่งข้อความของ BlackBerry (BBM Connected App) ซึ่งมียอดการดาวน์โหลดมหาศาลแต่ยังมีจำนวนน้อย ยังอุบแผนคุยโอเปอเรเตอร์ไทยทำ Operator Billing หรือการเก็บค่าซื้อสินค้าและบริการบนแอปฯ ผ่านบิลค่าบริการโทรศัพท์มือถือ ระบุเพียงว่าการร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ในอินโดนีเซียถือเป็นสัญญาณที่ดีของ การเจรจากับโอเปอเรเตอร์รายอื่น เบื้องต้นตั้งความหวังว่าโอเปอเรเตอร์บิลลิ่งอาจเกิดในไทยช่วงปีหน้า

*** ปีหน้า RIM รุกหนักนักสร้างแอปฯไทย ***

Gregory Wade กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียตะวันออก บริษัท Research In Motion หรือ RIM ให้สัมภาษณ์ในงาน Blackberry DevCon Asia 2011 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 7-8 ธันวาคมที่ผ่านมาว่าไทยคือหนึ่งในหลายประเทศของเอเชียที่ริมจะให้ความสำคัญ ในการลงทุนเพิ่มขึ้นช่วงปีหน้า โดยยอมรับว่าการตัดสินใจครั้งนี้มาจากการขยายตัวของตลาด BlackBerry ในเอเชีย ซึ่งพบว่ารายได้ของริมมากกว่า 56% มาจากตลาดนอกสหรัฐฯ-แคนาดา-ยุโรป

“Next big thing หรือการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นในตลาดไทยช่วงปีหน้า คือการให้ความสำคัญกับการใช้งานแอปฯ กลุ่ม BBM Connected เพราะไทยเด่นเรื่องเครือข่ายสังคม เราต้องการส่งเสริมให้การใช้งานแอปฯ BBM ในบริการเครือข่ายสังคมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทางที่จะไปถึงจุดหมายได้คือการร่วมมือกับนักพัฒนาแอปฯไทย”

เวดด์ระบุว่าแอปฯ กลุ่ม BBM Connected นั้นมีจำนวนเพียง 325 แอปฯในขณะนี้ แต่มียอดการดาวน์โหลดสูงกว่า 60 ล้านครั้ง ขณะเดียวกัน 6 ใน 10 ของผู้ใช้บีบีในไทยนั้นใช้งานเครือข่ายสังคม จุดนี้ถือเป็นโอกาสที่ริมมองเห็นจนทำให้ริมตั้งใจเข้าถึงนักพัฒนาแอปฯไทยมาก เป็นพิเศษ โดยมีแผนจะกลับมาจัดงาน DevCon Asia 2012 ในไทยหลังจากที่ต้องย้ายไปประเทศสิงคโปร์เพราะพิษน้ำท่วม

RIM ยังมีแผนจะเข้าถึงนักพัฒนาไทยด้วยการจัดกิจกรรมและร่วมมือกับสถานบันการ ศึกษาไทยในปีหน้า ถือเป็นการตามรอยการเข้าถึงนักพัฒนาแอปฯในประเทศอินโดนีเซียที่ริมเปิดทางมา ก่อนและประสบความสำเร็จงดงาม โดยในระดับโลก RIM ใช้วิธีเปลี่ยนโฉมชุดเครื่องมือพัฒนาแอปฯออนไลน์ใหม่ในชื่อ Blackberry Jam ซึ่งได้รับการยกย่องจากนักพัฒนาไทยว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีและครอบคลุม กว่าชุดเครื่องมือดั้งเดิมมาก

นอก จากนักพัฒนา ริมยังหวังเจรจากับโอเปอเรเตอร์ไทยเพื่อให้ชาว BlackBerry ในไทยมีโอกาสซื้อสินค้าและบริการบนแอปฯ โดยไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิต แต่สามารถจ่ายเงินรวมกับค่าบริการโทรศัพท์มือถือรายเดือนได้เลย (Operator billing) จุดนี้เวดด์ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่าริมกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับใคร โดยที่ผ่านมา ริมได้ร่วมมือกับ 21 โอเปอเรเตอร์ทั่วโลกแล้วในขณะนี้ และมี 2 รายเป็นโอเปอเรเตอร์ในเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซียและออสเตรเลีย

“ยังบอกรายละเอียดการเจรจาไม่ได้ แต่การร่วมมือระหว่าง RIM และอินโดแซต (โอเปอเรเตอร์ในอินโดนีเซีย) ถือเป็นสัญญาณที่ดี”

นอกจากไทย เวดด์นั้นระบุว่าริมจะเพิ่มการลงทุนในเอเชียอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีนับ จากนี้ ไม่มีการพูดถึงตัวเงิน แต่จะมีนโยบายการลงทุนเพิ่มเช่นการขยายร้านค้าปลีก ให้การสนับสนุนและร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ให้มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มนโยบายด้านการตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้มากกว่าเดิม

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.