สรุปข่าวไอทีประจำวัน (11 ธันวาคม 2554)

สรุปข่าวไอทีที่น่าสนใจประจำวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2554 ครับ

 

Pay per Click “ePrint” บนเกมชิงตลาดครั้งใหม่ !!!

เปิดโมเดลการขายใหม่ของ “ePrint” จุดพลิกที่จะสร้างโอกาสในตลาดใหม่ที่ยังไม่มีผู้เล่นรายใดลงมาจับจอง ทั้งตลาดกราฟิกและการเช่าเครื่อง นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม ePrint อีกหลากหลายรูปแบบที่จะเข้ามาเป็นตัวชูโรงให้กับค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง “HP” ดีดตัวเองหนีคู่แข่งขันไปอีกขั้น

ปี 2554 ถือเป็นปีที่เมืองไทยต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน แต่ในทางตรงกันข้าม ธุรกิจภาพและการพิมพ์ของเอชพีกลับสดใส โดยมีอัตราการเติบโต 12% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเป็นผลมาจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่ออกมาตอบโจทย์ความต้องการ ผู้บริโภคในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการผนึกพันธมิตรผุดแคมเปญการตลาดรูปแบบต่างๆ ได้ตรงใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

สำหรับปี 2555 HP เชื่อว่า ภาพรวมตลาดเครื่องพิมพ์ยังคงเติบโตต่อเนื่องได้เป็นตัวเลข 2 หลัก เนื่องจากพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Mobile Device ทั้ง Smart Phone และ Tablet ส่งผลให้เกิดคอนเทนต์จำนวนมหาศาล และเป็นแรงผลักให้เกิดความต้องการพิมพ์จาก Internet สูงขึ้น โดยผลการวิจัยคาดการณ์ว่าในอีก 3 ปี ปริมาณคอนเทนต์ทั่วโลกจะเติบโต 10 เท่า ขณะที่ตลาดไทยคาดว่าจะเติบโตประมาณ 3 เท่า

นอกจากนี้ เทคโนโลยีการพิมพ์ที่เริ่มเปลี่ยนจากการพิมพ์ผ่านเครื่องพิมพ์ออฟเซต ต้องพิมพ์ปริมาณมากๆ มาเป็นดิจิตอล ทำให้เกิดความต้องการงานพิมพ์เฉพาะบุคคล (Personalize) มากขึ้น รวมถึงแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีบน Cloud Computing และเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกับเว็บก็เริ่มแพร่หลายมากขึ้นด้วย

จากแนวโน้มดังกล่าว HP เชื่อว่าจะเป็นโอกาสในการทำตลาดเครื่องพิมพ์ในเมืองไทย โดยมี “ePrint” เป็นหัวหอกในการบุกตลาดปีหน้า

การเลือกใช้ “ePrint” มาเป็นตัวขับเคลื่อนทางการตลาดนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้หลายค่ายมีการนำเสนอแนวคิดนี้สู่ตลาด ขณะที่ HP ก็มีการใช้กลยุทธ์นี้ในการทำตลาดในสหรัฐอเมริกามาแล้ว

“ePrint” ถือเป็นแพลตฟอร์มการพิมพ์บนพื้นฐานแนวคิดระบบ Cloud Computing ซึ่งเป็นการแชร์ใช้ทรัพยากรและช่วยประหยัดต้นทุนไอทีให้องค์กรได้มากขึ้น โดยผู้ใช้สามารถสั่งพิมพ์งานจากอุปกรณ์ใดๆ ก็ได้ที่รองรับการใช้งาน eMail “ePrint” จึงนับเป็นโซลูชั่นที่จะเข้ามาตอบโจทย์การพิมพ์ของผู้บริโภคที่นิยมใช้ Internet และ Web มากขึ้น อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับธุรกิจได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คอนซูเมอร์ องค์กรธุรกิจ และตลาด SMB ที่ HP มีความชำนาญอยู่แล้ว

ยกตัวอย่าง ตลาดคอนซูเมอร์ เครื่องพิมพ์ที่รองรับ “ePrint” เช่น ENVY e-all-in-one และ Deskjet Ink Advantage ส่วนตลาดเอนเตอร์ไพรส์ ก็จะมี ePrint enterprise เข้ามาตอบโจทย์ เป็นต้น

แม้ “ePrint” จะเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การใช้งาน แต่ก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น การจะประเมินขนาดตลาดจึงยาก อีกทั้งในเรื่องคลาวด์ ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หากวัดจากเครื่องพิมพ์ที่มีโซลูชั่นอีพรินต์รองรับการพิมพ์ผ่าน Cloud Service มีการประเมินกันว่า ในปี 2555 ทั่วโลกจะมีไม่ต่ำกว่า 50 ล้านเครื่อง

จากตัวเลข ดังกล่าว แน่นอนว่าย่อมดึงดูดและกระตุ้นลูกค้าให้หันมาพิมพ์มากขึ้น ที่สำคัญไปกว่านั้น ยังจะช่วยให้ธุรกิจการพิมพ์ของ HP ในปี 2555 เพิ่มการเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลักเช่นกัน

 

‘RTB’ เกาะกระแส Angry Birds หวังส่วนแบ่งตลาดลำโพง 25% !!!

RTB Technology เตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการ Mobile Accessories ด้วยการเปิดตัวลำโพงตัวละครจากเกมดัง “Angry Birds” คาดยอดขายพ.ย.-ธ.ค. แตะหลัก 3,000 ตัว มั่นใจสามารถดึงส่วนแบ่งตลาดลำโพงได้ 25%

ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการบริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัดเผยว่าแบรนด์ Gear 4 เป็นแบรนด์ที่นำมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์ถูกต้องในการจัดจำหน่ายสินค้าจากเกม Angry Birds ทั้งนี้แบรนด์ Gear 4 จะเน้นทำตลาดในส่วนของอุปกรณ์เสริมของ iPhone, iPod และ iPad นอกจากนี้แล้ว Gear 4 ยังมีสินค้าประเภทลำโพง สายชาร์จไฟ และเคส แต่ถ้าหากนับเฉพาะลำโพงสำหรับ iPhone/iPad แบรนด์ Gear4 และ Gear4 Angry Birds ถือครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 รองจาก JBL

“การเปิดตัวลำโพง Angry Birds เริ่มต้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเราคาดว่าในช่วง 2 เดือนก่อนส่งท้ายปี 2554 ยอดขายลำโพงน่าจะขายได้ราว 3,000 ตัว มีส่วนแบ่งการตลาดราว 25% ซึ่งลำโพงที่ใช้ตัวละครจากเกม Angry Birds เป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้ใช้งาน iPhone, iPad และสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ทำให้บริษัทมองว่าในอนาคตตัวแบรนด์ Angry Birds จะสามารถเติบโตและขยายความนิยมได้ เหมือนช่วงหนึ่งในอดีตที่วัยรุ่นนิยมชมชอบตัวละคร Mickey Mouse แต่ในเจนเนอร์เรชันนี้ก็จะกลายเป็น Angry Birds ที่สามารถครองใจวัยรุ่นได้แทน นอกจากสินค้าประเภทลำโพงแล้ว อาร์ทีบีก็จะมีสินค้าประเภทอื่นๆ อย่างตุ๊กตา เสื้อผ้า เครื่องเขียน และของตกแต่งบ้านออกมาจำหน่ายเพื่อเอาใจสาวก Angry Birds อีกด้วย”

นอกจากนี้ดร.บรรพตได้กล่าวเสริมว่าแนวโน้มตลาด Mobile Accessories ในช่วงไตรมาสสุดท้ายประจำปี 2554 จะมียอดขายชะลอตัวประมาณ 10% เนื่องจากปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ส่วนทิศทางในตลาดอุปกรณ์เสริมฯ ในปี 2555 คาดว่าจะมีผู้ผลิตหน้าใหม่เข้ามาสร้างสีสัน และเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภค

ทางด้าน Neal Rudge ผู้บริหารแปซิฟิก ไลเซนนิง สตูดิโอ ประเทศไทย จำกัด ผู้ดูแลลิขสิทธิ์ Angry Birds ในประเทศไทยกล่าวเสริมว่าความสำเร็จของเกมและแบรนด์ Angry Birds เป็นเพราะตัวเกมมีความสนุกสนาน ตัวละครมีความน่ารัก และที่สำคัญคือมีอินเตอร์แอ็คทีฟกับผู้เล่น ส่วนเหตุผลอีกประการหนึ่งคือ Angry Birds สามารถเล่นได้หลากหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการไอโอเอส, แอนดรอยด์, ซิมเบียน รวมไปถึงบนเฟซบุ๊ก ทำให้ชื่อของเกม Angry Birds เป็นที่คุ้นหูและเข้าถึงผู้เล่นได้ง่าย

สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แบรนด์ Gear4 จะนำมาวางจำหน่ายเป็นลำโพง Angry Birds ซึ่งจะมีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นได้แก่ลำโพงนกแดง (Red Bird) ซึ่งจะจำหน่ายในราคา 3,200 บาท ส่วนอีก 2 รุ่นคือ Helmet Pig (หมูเขียว) และ Black Bird (นกดำ) ทั้ง 2 รุ่นจะจำหน่ายในราคา 3,900 บาท

ทั้ง นี้ สินค้าของอาร์ทีบีจะใช้ช่องทางจำหน่ายผ่านหน้าร้านไอสตูดิโอ เจมาร์ท คิงเพาเวอร์ ทรูคอฟฟี บีเทรนด์ ซินเน็ค และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.